หมวดหมู่: มติ ครม.

Gov 38


รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรภูฏาน

         คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ ดังนี้

         1. รับทราบบันทึกการหารือว่าด้วยการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (บันทึกการหารือฯ)

         2. เห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (ร่างความตกลงฯ) และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ขอให้ คค. ดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

         3. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามร่างความ ตกลงฯ และให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวด้วย

         4. เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทย

         5. มอบให้ กต. ดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยืนยันการมีผลใช้บังคับของร่างความ ตกลงฯ ต่อไป โดยให้ กต. สามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบกับสาระสำคัญ

         สาระสำคัญของเรื่อง

         1. ที่ผ่านมาประเทศไทยและราชอาณาจักรภูฏานได้มีการเจรจาหารือเกี่ยวกับการบริการเดินอากาศระหว่างกัน ระหว่างวันที่ 26 - 27 มีนาคม 2562 ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน ซึ่งในการเจรจาหารือดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะจัดทำความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (ความตกลงฯ) ฉบับใหม่ เพื่อมาแทนที่ความตกลงฯ ฉบับเดิม ที่ได้ลงนามเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2536 โดยได้ปรับปรุงข้อกำหนดและสิทธิทางการบินระหว่างทั้งสองประเทศให้มีความเป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีความใกล้เคียงกับความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศที่ประเทศไทยได้จัดทำกับประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา [เช่น ประเทศแคนาดา เบลเยียม สหราชอาณาจักร และศรีลังกา] โดยร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

             1.1 เพิ่มข้อบทที่สำคัญที่ไม่ปรากฏในความตกลงฯ ฉบับเดิม จากเดิม 22 ข้อบท (เช่น การกำหนดสิทธิของสายการบิน การใช้กฎหมายและข้อบังคับ ค่าภาระ พิกัดอัตราค่าขนส่ง ภาษีศุลกากร กิจกรรมเชิงพาณิชย์ เป็นต้น) เพิ่มเป็น 30 ข้อบท (ข้อบทที่เพิ่มมา เช่น ความปลอดภัยการบิน การรักษาความปลอดภัยการบิน การเก็บภาษี การแข่งขันที่เป็นธรรม ความจุ การทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน/ข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือ เป็นต้น)

             1.2 ปรับปรุงข้อบทเดิมเพื่อให้เกิดความชัดเจน มีความทันสมัยยิ่งขึ้นและรองรับต่อสภาวการณ์การบินในปัจจุบัน เช่น

 

ข้อบท

 

การปรับปรุง

(1) การให้สิทธิ

 

- ปรับปรุงสิทธิในการบินของสายการบิน โดยตัดถ้อยคำที่ระบุเรื่องการให้สิทธิแก่สายการบินในการรับขนจากจุดในประเทศที่สาม

- เพิ่มการให้สิทธิแก่สายการบินอื่นของทั้งสองฝ่ายที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ความตกลงฉบับนี้ ให้สามารถบินผ่านและลงจอดในอาณาเขตของอีกฝ่ายหนึ่งได้ (สิทธิที่ 1 และ 2)

(2) การกำหนดสายการบินและการอนุญาตดำเนินการ

 

ปรับปรุงให้แต่ละฝ่ายสามารถกำหนดสายการบินที่ดำเนินการตามความตกลงได้หลายสายการบิน (จากเดิมกำหนดได้ 1 สายการบิน)

(3) การระงับ การเพิกถอน และการจำกัดการอนุญาตดำเนินการ

 

เพิ่มเงื่อนไขให้สามารถระงับการออกใบอนุญาตดำเนินการของสายการบินได้ในกรณีที่สายการบินไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในเรื่องของความปลอดภัยการบินและการรักษาความปลอดภัยการบิน

(4) ค่าภาระ

 

เพิ่มแนวทางให้มีการปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดค่าภาระระหว่างกัน

(5) พิกัดอัตราค่าขนส่ง

 

ปรับปรุงแนวทางการขออนุมัติพิกัดอัตราค่าขนส่ง โดยกำหนดให้แต่ละฝ่ายไม่ต้องยื่นขออนุมัติพิกัดอัตราค่าขนส่งต่อเจ้าหน้าที่การเดินอากาศ (จากเดิมกำหนดให้ต้องขออนุมัติพิกัดอัตราค่าขนส่งต่อเจ้าหน้าที่การเดินอากาศก่อน)

(6) ใบพิกัดเส้นทางบิน

 

ปรับปรุงใบพิกัดเส้นทางบินเป็นแบบเปิด (ไม่ได้กำหนดสถานที่ในแต่ละจุดของเส้นทางการบิน)

 

         2. ผลจากการเจรจาหารือข้างต้นส่งผลให้มีเอกสารจำนวน 3 ฉบับ ที่กระทรวงคมนาคมขอเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบและให้ความเห็นชอบมาในครั้งนี้ ได้แก่ (1) บันทึกการหารือว่าด้วยการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏาน (บันทึกการหารือฯ) (2) ร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่ และ (3) ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูต รายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

 

เอกสารต่างประเทศ

 

เสนอ

คณะรัฐมนตรี

สาระสำคัญ

 

ลักษณะการเป็นหนังสือสัญญา

ตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ

แห่งราชอาณาจักรไทย

(1) บันทึกการหารือฯ

 

รับทราบ

เป็นเอกสารสรุปผลการหารือร่วมกันเกี่ยวกับบริการเดินอากาศระหว่างสองประเทศ

 

กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เห็นว่าไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

(2) ร่างความตกลงฯ ฉบับใหม่

 

เห็นชอบ

เป็นการกำหนดข้อบทต่างๆ เกี่ยวกับสิทธิการบินและการบริการเดินอากาศระหว่างกัน โดยมีการกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายต้องปฏิบัติ

 

- กต. และ สคก. เห็นว่า เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

- คค. แจ้งว่า ไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 วรรคสองและวรรคสามของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

(3) ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูต

 

เห็นชอบ

เป็นการยืนยันผลการหารือเพื่อให้ข้อกำหนดในบันทึกการหารือฯ มีผลใช้บังคับ

 

- คค. และ สคก. เห็นว่า เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

- สคก. เห็นว่าไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 วรรคสองและวรรคสามของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

 

         3. คค. แจ้งว่า ที่ผ่านมา ระหว่างปี 2562 - 2567 มีสายการบินของภูฏานทำการบินแบบประจำระหว่างไทย - ภูฏาน จำนวน 2 สายการบิน (ได้แก่ Druk Air และ Bhutan Airlines) ในส่วนของฝ่ายไทยไม่มีสายการบินทำการบินในเส้นทางนี้ ซึ่งจากข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวภูฏานที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวภูฏานเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2565 อย่างมีนัยสำคัญ [มีนักท่องเที่ยวชาวภูฏาน ในปี 2566 จำนวน 20,356 ราย ส่วนในปี 2565 มีจำนวน 8,732 ราย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 133)] ดังนั้นการจัดทำความตกลงฯ ฉบับใหม่ รวมถึงการปรับปรุงสิทธิรับขนการจราจร จากเดิม 28 เที่ยวต่อสัปดาห์ เป็น 35 เที่ยวต่อสัปดาห์ จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในเรื่องการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันราชอาณาจักรภูฏานมีแนวโน้มจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลดลงอย่างมากแล้ว ดังนั้น จึงเห็นควรให้ คค. เร่งประสานงานกับสายการบินต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ (Feasibility) รวมถึงจังหวะเวลาที่มีความเหมาะสมในการเปิดเส้นทางการบินไทย - ภูฏาน เพื่อให้สายการบินของประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงฯ ฉบับใหม่ ได้อย่างเต็มที่

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 23 กรกฎาคม 2567

 

 

7707

Click Donate Support Web 

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

QIC 720x100

TOA 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

AXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!